ถ้าคุณดูบอลเปแอสเชฤดูกาลนี้ แล้วสงสัยว่าใครคือคนที่แบกเกมรุกแทน เมสซี, เนย์มาร์ และเอ็มบัปเป้ คำตอบชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็น อุสมาน เดมเบเล่ จากปีกที่เคยถูกมองว่าเจ็บบ่อยและเล่นไม่สม่ำเสมอ วันนี้เดมเบเล่กลายเป็นหัวใจสำคัญของ PSG ทั้งยิงคม แอสซิสต์เฉียบ และมีบทบาททั่วทั้งสนามจนแฟนดูบอลต้องจับตา เราจะพาคุณไปรู้จักเดมเบเล่ในเวอร์ชันใหม่ที่ทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีมต่างยกย่อง ว่าเขาอาจเป็นคนพา PSG สู่ความยิ่งใหญ่ยุคใหม่อย่างแท้จริง
อุสมาน เดมเบเล่ ฟอร์มระเบิด ยิงโหด แอสซิสต์คม ลุ้นพา PSG สู่ยุครุ่งเรืองใหม่
ปารีส ในฤดูกาล 2024/25 ที่เปแอสเชไร้เงาสามซูเปอร์สตาร์อย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ลิโอเนล เมสซี และเนย์มาร์ หลายฝ่ายคาดว่าเกมรุกของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิงฝรั่งเศสอาจเข้าสู่ช่วงผันผวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่าในความเปลี่ยนแปลงกลับมีแสงสว่างสาดส่องออกมาอย่างไม่คาดฝัน นั่นคือการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของ อุสมาน เดมเบเล่ในฐานะผู้นำเกมรุกคนใหม่ของทีม
จากนักเตะที่เคยถูกมองว่า “บอบบาง”, “เจ็บบ่อย”, และ “ไร้ความสม่ำเสมอ” วันนี้ เดมเบเล่ ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถแบกทีมในเวทีใหญ่ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสนาม สถิติการทำประตู ไปจนถึงการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม ทุกอย่างกำลังบ่งชี้ว่า เดมเบเล่ไม่ใช่แค่ปีกความเร็วสูงอีกต่อไป แต่กลายเป็นหัวใจของเกมรุกแห่งยุคใหม่ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
อุสมาน เดมเบเล่ ในยุคของหลุยส์ เอ็นริเก้ จากริมเส้นสู่ศูนย์กลางเกมรุก
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเดมเบเล่เริ่มต้นขึ้นภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ เฮดโค้ชชาวสเปนที่รู้จักกับเดมเบเล่มาตั้งแต่สมัยคุมทีมบาร์เซโลนา เอ็นริเก้มองเห็นศักยภาพของเดมเบเล่ที่มากกว่าแค่การลากเลื้อยริมเส้น เขาจึงตัดสินใจมอบหมายบทบาทใหม่ให้ดาวเตะฝรั่งเศส โดยให้มีอิสระในการเคลื่อนที่จากปีกขวาเข้าสู่พื้นที่กลางสนาม บางเกมถึงขั้นส่งลงเป็นกองหน้าตัวหลอก (False 9) เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับแผนการเล่น
ผลลัพธ์คือความเปลี่ยนแปลงในทางบวกที่ชัดเจน เดมเบเล่กลายเป็นตัวจบสกอร์หลักของทีมไปโดยปริยาย อีกทั้งยังเป็นผู้เชื่อมเกมรุกจากแดนกลางสู่แดนหน้าได้อย่างลื่นไหล ซึ่งหากใครได้ชม ฟุตบอลสด ของเปแอสเชในฤดูกาลนี้ จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทันที เขากลายเป็นหัวใจของระบบแทคติกยุคใหม่ที่เน้นการเคลื่อนบอลอย่างรวดเร็วและโจมตีจากทุกทิศทาง
ตัวเลขฟ้องฟอร์ม ยิงกระจาย แอสซิสต์เพียบ
จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2025 เดมเบเล่ลงสนามให้กับ PSG ไปแล้ว 46 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 33 ประตู และจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 13 ครั้ง เฉพาะในลีกเอิง เขายิงไป 21 ประตูจาก 28 เกม และมีค่าเฉลี่ยการทำประตูทุก 79 นาที ซึ่งถือว่าสูงมากในบรรดานักเตะยุโรปในตำแหน่งไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า
นอกจากนี้เขายังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมถึง 63 ครั้ง ในลีก และมีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จที่ 83% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในด้านการตัดสินใจและการเล่นเพื่อทีม
ฟอร์มที่ร้อนแรงของเขายิ่งฉายแสงเมื่อเข้าสู่ปี 2025 โดยเขากดไปถึง 15 ประตูจาก 8 เกมแรกของปี พร้อมทำแฮตทริกในเกมกับ สตุ๊ตการ์ท และ เบรสต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดและความหลากหลายในการทำประตู ไม่ว่าจะยิงจากระยะไกล ยิงด้วยเท้าซ้าย เท้าขวา หรือโหม่ง เขาทำได้ทั้งหมด
เปลี่ยนทัศนคติ = เปลี่ยนตัวเอง
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญนอกเหนือจากแทคติก คือ “ทัศนคติของเดมเบเล่” จากนักเตะที่เคยโดนวิจารณ์เรื่องวินัย ความจริงจัง และการซ้อมไม่เต็มที่ วันนี้เขากลายเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง มีความรับผิดชอบ และทุ่มเททั้งในและนอกสนาม เอ็นริเก้กล่าวไว้ว่า “เดมเบเล่ในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมจากเมื่อ 2 ปีก่อน เขาเติบโตขึ้น และพร้อมจะนำทีมไปให้ถึงฝัน”
เสียงชื่นชมไม่เพียงมาจากโค้ชเท่านั้น เพื่อนร่วมทีมหลายคนก็ยืนยันว่าเดมเบเล่ในเวอร์ชันนี้คือ “จุดเปลี่ยนที่แท้จริงของฤดูกาล” เขาไม่ได้เพียงสร้างความหวือหวา แต่สามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยตัวเองในสถานการณ์คับขัน
ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ บัลลงดอร์ไม่ใช่แค่ความฝัน
ด้วยฟอร์มการเล่นอันร้อนแรง บวกกับการที่เปแอสเชเข้าใกล้การคว้า ทริปเปิลแชมป์ ในฤดูกาลนี้ เดมเบเล่ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิง บัลลงดอร์ 2025 หากสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
ล่าสุด เว็บไซต์ Transfermarkt ได้ประเมินมูลค่าทางการตลาดของเขาใหม่ จาก 55 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นเป็น 75 ล้านยูโร ภายในเวลาเพียง 4 เดือน หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 36% ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าที่รวดเร็วที่สุดของนักเตะใน ฟุตบอลวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงฟอร์มอันร้อนแรงและบทบาทสำคัญของเขากับเปแอสเชในฤดูกาลนี้อย่างแท้จริง
อุสมาน เดมเบเล่ จาก “อดีตดาวรุ่งขี้เจ็บ” สู่ “สัญลักษณ์แห่งความหวัง”
หากย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน แทบไม่มีใครคาดคิดว่า อุสมาน เดมเบเล่จะสามารถกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพได้อีกครั้ง แต่เขากลับไม่เพียงแค่กลับมา หากยังพุ่งทะยานขึ้นเป็นแกนหลักของหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป
ฤดูกาลนี้ไม่เพียงเป็นปีทองของเขาในแง่ผลงานส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังอาจกลายเป็นปีที่เขาได้เปลี่ยนสถานะจาก “ผู้เล่นพรสวรรค์สูง” ไปสู่ “ตำนาน” ของสโมสร หากสามารถพา PSG คว้าทริปเปิลแชมป์ได้สำเร็จในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ไม่ว่าเส้นทางจะจบลงอย่างไร อุสมาน เดมเบเล่ในฤดูกาล 2024/25 ได้ประกาศศักดาให้โลกรู้แล้วว่า เขาคือนักเตะระดับโลกตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่งของยุคนี้
สรุป
อุสมาน เดมเบเล่ กลายเป็นหัวใจแนวรุกของ PSG ในฤดูกาล 2024/25 หลังการจากไปของเอ็มบัปเป้, เมสซี และเนย์มาร์ ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ เขาเปลี่ยนบทบาทจากปีกสู่ผู้เล่นแนวรุกตัวหลัก ยิงไป 33 ประตู และทำ 13 แอสซิสต์จาก 46 นัด ฟอร์มร้อนแรง ผสานกับทัศนคติใหม่ที่จริงจังและทุ่มเท ทำให้เขามีลุ้นพา PSG คว้าทริปเปิลแชมป์ และอาจก้าวสู่เวทีบัลลงดอร์ในปีนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- แฟนบอลตัวจริงห้ามพลาด! เปิดราคาแพ็กเกจดูบอล “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” 2025/26 ครบทุกแมตช์ ผ่านช่องทางดูบอล AIS Play Premier Football HD1
- มิติใหม่ ! ลุยสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์ม AIS Premier HD1 ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ” 2025/26 ครบทุกแมตช์สำคัญ ในราคาสุดคุ้ม
- 5 นักเตะวัย 30 ปีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ฤดูกาล 2025 บรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองอันดับ 1
- เปิดประสบการณ์ใหม่กับ UFA369 เว็บเดียวจบ! สนุกกับเกมสล็อต RG SLOT ค่ายใหม่มาแรง ภาพสวย โบนัสจัดเต็ม
- แนะนำ สูตรบาคาร่าใหม่ล่าสุด ใช้งานได้จริง สมัคร บาคาร่าเว็บตรง รับสูตรฟรี! ทดลองเล่นได้ทุกค่าย ตลอด 24 ชม.